แน่นอนว่าพูดถึงรถคันแรกที่นำพาให้เรารู้จักกับภาพยนต์ Fast & Furious หลายๆ คนคงต้องพูดถึง จุดเริ่มต้นตำนานอย่าง เจ้า Toyota Supra MarkIV ตัวถังสีส้ม Lamborghini Diablo Candy Orange ที่ถือเป็นรถไฮไลท์ประจำภาครวมถึงผู้ที่กุมพวงมาลัยรถคันนี้คือ ไบรอัน โอคอนเนอร์ ที่รับบทโดย พอล วอล์คเกอร์ (ผู้ลาลับ) ไปแล้ว
ซึ่งถือเป็นรถญี่ปุ่นคันที่สองที่ ไบรอัน โอคอนเนอร์ ได้ขับหลังจากรถ Mitsubishi Eclipse สีเขียวคันแรก ที่ระเบิดไป ก่อนจะเปลี่ยนมาขับเจ้า Nissan SkylineGT-R34 ในภาคต่อๆ มา
แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังยอมรับว่า Toyota Supra ในภาคแรกนั้นขับมันที่สุด และเป็นรถอันดับ 1 ในแฟรนไชส์ Fast ของเขาเลยทีเดียว “ผมต้องบอกเลยว่าผมชอบเครื่อง 2JZ (สองเจแซด)ที่อยู่ใน Toyota Supra จริง ๆ มันเป็นเครื่องยนต์ที่สนุกสะใจจนไม่รู้จะอธิบายยังไง
ส่วนตัวผมมีรถรุ่นนี้ที่ผลิตในปี 1995 คันนึง และรถมันวิ่งไปแค่ 30,000 ไมล์เท่านั้นเอง ผมเลยสนุกกับการปรับแต่งและทำส่วนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีก เปลี่ยนโฉมมันจนเป็นรถที่เจ๋งโคตร ๆ ไปเลย” นี่คือสิ่งที่ พอล วอล์คเกอร์ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร เจ้าหนึ่ง
ซึ่งล่าสุดทางบริษัทประมูลชื่อดังอย่าง Barrett-Jackson ได้นำเอารถ Toyota Supra MarkIV สีส้มคันนี้ออกมาประมูล แถมยังบอกอีกว่ามันคือรถคันจริงที่ พอล วอล์กเกอร์ ขับใน Fast & Furious ภาคแรก แถม พอล วอล์กเกอร์ ยังเป็นคนกำกับการโมดิฟายรถคันนี้ด้วยตัวเองทั้งหมด ก่อนที่จะนำไปใช้ถ่ายทำจริงในหนัง
ซึ่งตามเอกสารที่มาพร้อมกับรถระบุว่า รถคันนี้ถูกสร้างโดยชายที่ขื่อว่า Eddie Paul สำหรับใช้ถ่ายทำในภาพยนตร์ Fast & Furious ภาคแรก ก่อนถูกดัดแปลงให้กลายเป็น Supra คันสีทองใน 2 Fast 2 Furious และถูกเปลี่ยนกลับสู่ตัวถังสีส้มรูปแบบดั้งเดิมอีกครั้ง
โดยรถ Toyota Supra MarkIV คันนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์เดิมจากโรงงานในรหัส 2JZ-GTE 3.0 ลิตร เทอร์โบ 6 สูบเรียง จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
พร้อมทั้งจะถูกนำไปคืนชีพใหม่ทั้งคัน เช่น สีตัวถังเดิมๆ อย่าง Lamborghini Diablo Candy Orange และ สติ๊กเกอร์กราฟฟิครอบตัวถัง
รวมถึง ล้ออัลลอย Dazz Motorsport Racing Hart M5 Tuner ขนาด 19 นิ้ว ฝากระโปรง TRD ชุดสเกิร์ตรอบคันจาก Bomex และปีกหลังอลูมิเนียมจาก APR ก่อนขึ้นประมูล ในลาสเวกัสระหว่างวันที่ 17-19 มิถุนายนนี้ ปี 2021 นี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าราคามันจะต้องพุ่งไปไกลนอกโลกด้วยแน่ๆ
แน่นอนว่าเราเคยคุ้นๆ ผ่านตากับข่าว ที่เจ้ารถ Toyota Supra MarkIV คันนี้เคยถูกนำออกมาประมูลไปแล้ว ในงาน Mecum Auction (เมกคั่ม) ปี 2015 หลังจากที่ พอล วอล์คเกอร์ เสียชีวิต
แต่ก็ไม่ได้มีการยืนยันว่ามันคือรถคันจริง หรืออาจจะเป็นเพียงรถที่ทำไว้เข้าฉากใน The Fast and the Furious เท่านั้น โดยสำนักแต่ง The Shark Shop ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
เพราะรถคันดังกล่าวมาพร้อมกับเครื่อง 2JZ-GE เท่านั้น ไม่ใช่ 2JZ-GTE แบบในหนัง บล็อก 6 สูบแถวเรียง ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 220 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
แต่รูปลักษณ์ภายนอก ทั้งชุดแอโร่พาร์ทรอบคันจาก Bomex, สปอยเลอร์หลัง APR, ล้อแม็ก Racing Hart และลวดลายกราฟฟิก จัดมาให้เหมือนในหนังแบบเป๊ะๆ โดยมันถูกประมูลจบไปที่ราคา 185,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตีเป็นเงินไทยคือ 5,800,000 บาทเลยทีเดียว
โดยถ้ายังจำกันได้ในภาพยนต์หลังจากที่ไบรอัน ได้แข่งแพ้และติดรถเร็ว 10 วิ ให้แก่ดอม เขาก็ได้ไปนำซาก รถ Toyota Supra โฉม Targa (ถอดหลังคาได้) มาที่อู่ของดอม
พร้อมให้เจสซี่เปิดฝากระโปรงดูเครื่องยนต์ 2JZ-GE ไม่มีเทอร์โบ ที่ติดมากับซากก่อนที่ดอมจะลงเงินโมดิฟายชุดใหญ่ไฟกระพริบไปเป็น เครื่องยนต์ 2JZ-GTE
จากเทอร์โบคู่ เปลี่ยนใส่เทอร์โบเดี่ยวลูกใหญ่ เสริมด้วยไนตรัส จนมันสามารถซิ่งเอาชนะซูปเปอร์คารอย่าง เฟอร์รารี่ ไปได้อย่างขาดลอย
ซึ่งรถ Toyota Supra Mark I จะมีรหัสตัวถัง A40-A50 มากับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 กับ 2.6 ลิตร 6 สูบเรียง 12 วาล์ว 125 แรงม้า และ 111 แรงม้าตามลำดับ พร้อมระบบหัวฉีดไฟฟ้า ซึ่งถือว่าใหม่มากในยุค 70s
จากนั้น Toyota Supra ก็ต่อยอดด้วยทายาทรุ่นใหม่มาเรื่อยๆ ได้แก่ Mk 2 รหัสตัวถัง A60 ในปี 1981, Mk 3 รหัสตัวถัง A70 ในปี 1986 (โดยรุ่น A60 กับ A70) จะเป็นไฟหน้าแบบป๊อปอัพ ยกขึ้น-ลง ซึ่งเป็นโฉมแรกที่ใช้ชื่อ Supra เพียว ๆ
จนถึง Mk 4 รหัสตัวถัง A80 ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้รถญี่ปุ่นรุ่นนี้ “ดังระเบิด” ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้อย่างที่เรารู้กันว่า พอล วอคเกอร์ เขาเป็นหนึ่งในเจ้าของสำนักแต่งรถที่มีชื่อว่า AE performance ร่วมกับ (ผู้ที่เสียชีวิตพร้อมกับเขาในอุบัติเหตุ) และมีคอลเลคชั่นรถซิ่งอยู่หลายคัน
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า Toyota Supra MK IV ปี 1995 สีขาว ที่เจ้าตัวรักมากๆ ที่ได้รับเลือกให้มาปรากฏในช่วงสำคัญท้ายเรื่อง Fast & Furious 7
เพราะมันคือรถส่วนตัวที่ พอล วอล์กเกอร์ ชื่นชอบที่สุด และใช้ขับในชีวิตจริงตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ทำเอาแฟนๆ Fast ถึงกับเสียน้ำตาไปหลายคนสำหรับฉากนี้
ก่อนที่ Toyota Supra หยุดการผลิตที่ Mk 4 รหัสตัวถัง A80 อยู่หลายปี จนล่าสุดตำนานได้กลับมาอีกครั้งใน Mk 5 เมื่อปี 2019 กับรหัสตัวถัง J29 (ทว่าทาง Toyota ใช้ชื่อ A90 ในการโปรโมทเพื่อสืบสานตำนาน)
ซึ่งก็คือโฉม ที่ฮานใช้ใน Fast & Furious 9 ภาคล่าสุดนั้นเอง กับ Toyota GR Supra ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ทวินสกรอลล์เทอร์โบ กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที
และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,500 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง
ก่อนจากกันไปลองมาคอมเม้นม์ทายกันเล่นๆ ว่าราคาประมูลของจุดเริ่มต้นแห่งตำนานอย่าง Toyota Supra MarkIV คันจริง ที่ “พอล วอล์กเกอร์”ขับนี้ เพื่อนๆ คิดว่าจะจบกันที่กี่ล้านบาท ถึงจะคู่ควรกับความเป็นตำนานของมัน
