รวมที่สุดรถซิ่ง ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ Fast & Furious แต่ละภาคใช้รถรุ่นอะไรบ้าง?

รวมที่สุดรถซิ่ง ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ Fast & Furious แต่ละภาคใช้รถรุ่นอะไรบ้าง?

แน่นอนว่าถ้าหากพูดถึงตัวละครใน Fast & Furious ชื่ออันดับแรกๆ ที่โผล่ขึ้นมาในหัวของใครหลายๆ คนทั่วโลก เชื่อว่าคงหนีไม่พ้น โดมินิค โทเร็ตโต้ หรือ ดอม และ ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ หรือ ไบรอัน 2 หัวหอกตีนผีขาซิ่งของทีมที่ไม่ว่าไปภารกิจอันตรายแค่ไหนก็เอาอยู่ทุกงาน เรียกว่าทั้งคู่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนัง Fast & Furious  ไปแล้วก็คงไม่ผิด

จนแฟนๆ ต่างหน้าตั้งตารอยคอยดูภาคต่อๆ ไปของจักรวาล Fast & Furious อย่างใจจดใจจ่อเพราะความมันที่ยกระดับขึ้นอย่างเข้มข้นในทุกๆ ภาค

แต่แล้วเมื่อถึงการถ่ายทำ Fast & Furious 7 พวกเราก็ต้องทราบข่าวร้ายกับการจากไปของ พอล วอล์คเกอร์ วัย 40 ปี ที่ได้มาเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 15:30 น.

พอล วอล์คเกอร์ และ โรเจอร์ โรดาส (ผู้ขับรถคันดังกล่าว) ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO ของ Always Evolving (เจ้าของร้านแต่งรถใน ซานตา คลาริต้า) ได้ขับรถปอร์เช่ Porche Carrera GT สีแดง เดินทางไปทำกิจกรรมการกุศลที่ Reach Out Worldwide เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่ประเทศฟิลิปปินส์

แต่แล้วรถปอร์เช่ Porche Carrera GT สีแดงของพวกเขาได้หลุดการควบคุมและได้ชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางจนเกิดไฟลุกไหม้และระเบิดในที่สุดเป็นเหตุให้ทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ซึ่งการเสียชีวิตของ พอล วอล์คเกอร์ ก็ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อหนัง Fast & Furious 7  ที่จะเข้าฉายในปี 2014

จนต้องให้น้องชาย โคดี้ วอล์คเกอร์ และ คาเล็บ วอล์คเกอร์ เข้ามาช่วยพร้อมกับ CG จนเป็นหนังที่สมบูรณ์

ไบรอัน โอ คอนเนอร์ (Brian O’Connor) เป็นพระเอกในภาค 1,2,4,5,6,7 อดีตตำรวจแอลเอและอดีตเจ้าหน้าที่ FBI ปัจจุบันอยู่ในแก๊งซิ่งของดอม รวมทั้งเป็นแฟนของ มีอาและเป็นพ่อของแจ๊ค

หลังจากเสร็จภารกิจในภาคที่ 7 ไบรอันก็ได้ชีวิตอยู่กับครอบครัวโดยดอมและพวกพ้องได้ตกลงกันว่าจะไม่ดึงไบรอันและมีอาเข้ามาเกี่ยวข้องอีก (เอาละถ้าพร้อมแล้วก็ไปย้อนดูรวมรถซิ่งของ พ่อหนุ่ม ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ กันเลย)

โดยคันแรกนับว่าเป็นรถเปิดตัวของตัวละคร ไบรอัน โอ คอนเนอร์ นั่นก็คือ Mistsubishi Eclipse RS ปี 1995 ที่มีสีเขียวจิ๊ดจ๊าดแสบตา เป็นรถสปอร์ตขนาดเล็กรุ่นหนึ่งของค่าย Mitsubishi ที่มีการผลิตในปี 1989-2011 มีทั้งแบบ 2 ประตู และ 2 ประตูแบบเปิดประทุน

ซึ่งไบรอันได้นำมันมาลงแข่งกับดอมครั้งแรก จนเสียรถและถูกทีมแก๊งซิ่งอีกทีมในแอล.เอ.ยิงจนระเบิดไปใน Fast & Furious 1

Mistsubishi Eclipse RS  ใน Fast & Furious 1

นอกจากนี้ยังมีรถกระบะ Ford SVT F-150 Lightning ปี 2001 สีแดงที่ไบรอันใช้ขับตอนทำงานที่ร้านขายอุปกรณ์แต่งรถซิ่ง The RacersEdge ของแฮรี่

ส่วนอีกคัน ก็คือ Toyota Supra MK IV ปี 1994 สีส้มแจ๊ด ที่ปรากฏในช่วงกลางๆ จนถึงท้ายเรื่องใน Fast & Furious 1 ซึ่งในภาพยนตร์ ไบรอันได้นำซากรถ Toyota Supra มาทดสอบดูว่าดอมจะมีกำลังเงินในการซ่อมแซมรถคันนี้ได้หรือไม่

Toyota Supra MK IV Fast & Furious 1

แต่แล้วไบรอันกับดอมและเพื่อนร่วมทีมก็ได้ช่วยกันปรับแต่งมันซะสวยเปรี้ยวในภายหลัง รวมถึงยังเป็นรถไฮไลท์ในฉากจบ Fast 1 ที่ไบรอันใช้มันแข่งระยะ 1/4 ไมล์กับดอมก่อนจะยกมันให้ดอมใช้หลบหนีตำรวจไปในที่สุด

และก่อนจะเข้าสู่ Fast 2 Furious ก็ต้องไปดู คลิปนี้เลย  The Turbo-Charged Prelude to 2 Fast 2 Furious หนังสั้นที่เล่าเรื่องราวของไบรอันหลังจากที่ปล่อยให้ดอมหนีไป จนตัวเองก็ถูกคาดโทษ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อจะเชื่อมเข้าสู่ Fast & Furious 2 (คลิปด้านบนนี้เลย)

ต่อด้วย 3000GT VR-4 ปี1999 หรือที่เรามักจะเรียกว่า Dodge Stealth หรือ Mitsubishi GTO โดยรถรุ่นนี้ผลิตในระหว่างปี 1990-2001 ซึ่งไบรอันก็ได้ใช้มันขับแข่งกินเงินไปเรื่อยๆ ระหว่างที่หลบหนี

จนสุดท้ายก็ถูกตำรวจตามมาเจอจนต้องทิ้งรถหนี แต่ก็ยังโชคดีที่ได้สาวพาหนีติดรถมาลงที่หน้าเต็นท์รถแห่งหนึ่งในเท็กซัส

และเขาก็ได้มาเจอเข้ากับ Nissan Skyline GT-R34 สภาพเก่าๆ คันนี้และควักเงินซื้อมาในที่สุด

จากนั้นไบรอันก็ใช้เจ้า Nissan Skyline GT-R34 คันนี้แข่งซิ่งกินเงินมาเรื่อยๆ จนมาถึงไมอามี่ และค่อยๆ แต่งมัน จนออกมาหล่ออย่างที่เราเห็นในภาค 2 นั่นแหละ

Nissan Skyline GT-R เรียกว่าตระกูลนี้คือรถคันโปรดของ ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ ใน Fast ทุกภาคเลยก็ว่าได้เพราะถ้าให้เลือกรถเองละก็ ไบรอันก็มักที่จะเลือกรถญี่ปุ่นอย่าง Nissan GT-R เสมอๆ

ซึ่งใน Fast 2 ตอนต้นเรื่องถือว่าเป็นการเปิดตัว ไบรอัน และเจ้า Nissan R34 ปี1999 สีเงินคาดแถบฟ้าบวกกับการตกแต่งไฟใต้ท้องรถได้อย่างสวยงาม

แต่น่าเสียดายหลังจากที่โชว์เทพลอยข้ามสะพานเอาชนะคู่แข่งจนได้เงินรางวัลไปไม่ทันไรก็โดนตำรวจยิงปืนไฟฟ้าใส่และยึดไปในตอนต้นเรื่อง

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ Nissan Skyline

ในภาพรวม Skyline  เป็นไลน์การผลิตรถของ Nissan ที่มีมาตั้งแต่ปี 1975 ในฐานะรถ compact car หรือรถขนาดเล็ก ต่อมาจึงได้มีการผลิตรถรุ่นที่ใช่ชื่อว่า Skyline GT-R ขึ้นมาระหว่างปี 1969-1972 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโมเดลใหม่รุ่นที่สองในปี 1973

จากนั้นทาง Nissan ก็ทิ้งช่วงการผลิตไปถึง 16 ปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งอย่างฮือฮาในรุ่นที่ 3 หรือ R32 ที่มีการผลิตในปี 1989-1994 มันเป็นรถรุ่นแรกที่เปลี่ยนแนวมาเป็นรถแบบ Sport Compact หรือรถสปอร์ตขนาดเล็ก

R32 นอกจากจะสร้างชื่อในสนามแข่งทั้งที่บ้านเกิด เช่น Japannese Touring Car Championship มันยังดังข้ามทวีปไปโด่งดังที่ออสเตรเลีย โดยได้สร้างชื่อด้วยชัยชนะในสนามแข่ง Australian Touring Car Championship ในปี 1990

ความฮ็อตเวอร์ของมันทำให้บรรดาสื่อแดนจิงโจ้ต่างขนานนามให้มันว่า Godzilla ในฐานะ monster from Japan

และต่อมา Nissan ยังได้ผลิต Skyline GT-R รุ่นใหม่ๆ ตามมาอีก อาทิ รุ่นที่ 4 หรือ R33 ในช่วงปี 1995-1998

และรุ่นที่ 5 R34 ในปี 1999-2002 ซึ่งนับว่าเป็นตัวที่โด่งดังมากที่สุด ทั้งยังขึ้นเป็นเรือธงของแบรนด์ Nissan เลยทีเดียว จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงต้องตาต้องใจหนุ่มตำรวจอย่าง ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ เข้าอย่างจัง

ใน Fast & Furious 2 หลังจากที่รถคู่ใจอย่าง Skyline R34 โดนยึดไปแล้ว ทางตำรวจก็เสนอให้รถ Lancer Evo VII สีเหลือง ให้กับไบรอัน ซึ่งเจ้า Mitsubishi คันนี้เป็นรถปี 2002 มาพร้อมล้อแต่ง O-Z Rally Edition ซะด้วย

ในการแฝงตัวเข้าไปเป็นนักซิ่งส่งของคู่กับโรมันให้กับพ่อค้ายารายใหญ่อย่าง คาร์เตอร์ เวอโรนซึ่งก็มีฉากโชว์เทพอย่างการดริฟท์หมุนรถขับถอยหลัง

และการเหยียบบดคันเร่งวัดใจกับสาวมอนิก้า เจ้าหน้าที่ศุลากากรสุดสวย และไปเบรคที่ไฟแดงอย่างฉิวเฉียด

และต่อด้วย Yenko Camero S/T ปี 1969 สีน้ำเงิน ที่ปรากฏในช่วงท้ายเรื่องที่ไบรอันขับมันพุ่งทะยานไปจับพ่อค้ายา คาร์เตอร์ เวอโรน บนเรือ ซึ่งไบรอันได้มันมาจากการชนะเดิมพันจากนักซิ่งคนอื่นอีกที

Fast & Furious 4 ที่จริงแล้วรถ R34 ในหนังไม่ใช่รุ่น GT-R แท้ๆ แต่เป็น GT-T R34 ซึ่งมีตัวถังเดียวกันกับ GT-R R34 ที่ถูกนำมาตกแต่งชิ้นส่วนและเครื่องยนต์บางจุดให้เหมือนกับ GT-R R34 เท่านั้น

โดยไบรอัน ใช้มันแฝงตัวเข้ามาเป็นนักซิ่งส่งของให้เจ้าพ่อค้ายาบราก้า ขับแคี่ยวแข่งกับดอมอย่างมัน แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับไหวพริบของดอม โดนสะกิดท้ายจนรถหมุนและแพ้ไปในที่สุด

ก่อนที่มันจะถูกระเบิดพ่วงไปพร้อมกับรถซิ่งคันอื่นๆ ในฉากที่ดอม ต้อสู้กับฟินิกส์

และยังมี Subaru Impreza WRX STI 5 ประตูแฮชแบ็ค (รุ่นปี 2009 สีเทาดำ) ในฉากที่ไบรอันและดอมตะลุยขับซิ่งข้ามพรมแดนเม็กซิโกไปจับตัวเจ้าพ่อค้ายา อาร์ทูโร่ บราก้า กลับมารับโทษ ซึ่งตอนท้ายรถก็พลิกคว่ำจนพังยับ

และช่วงท้ายเรื่อง ไบรอันได้ขับรถอเมริกันกล้ามโตอย่าง Charger ปี 70 ของดอม ไปช่วยดอมออกจากรถนักโทษอีกด้วย

ใน Fast 5 เราก็จะเห็นไบรอันขับรถเก่าๆ แต่ถ้าสังเกตดีๆ มันคือ CT10 Skyline 2000 GT-R ปี 68 ในช่วงแรกที่มาถึงริโอ ถือว่าเป็นรุ่นแรกๆ ที่ใช้ตรา GT-R เลยทีเดียว

ส่วนท้ายเรื่องเขาก็ได้เปลี่ยนมาใช้ GT-R35 ซึ่งถือว่าเป็น Nissan รุ่นล่าสุดที่ใช้ตรา GT-R

นอกจากนี้ยังมี Porsche 996 GT3 RS ไบรอันและดอมได้มาจากการชนะเดิมพันแข่งซิ่งรถเจ้าถิ่นที่ริโอ และไบรอันก็ได้ขับมันในช่วงสั้นๆ ในการขับทดสอบหลบกล้องตรวจจับ CCTV ก่อนไปปฎิบัติภารกิจปล้นตู้เซฟเงินในกรมตำรวจริโอ

Porsche 996 GT3 RS ใน Fast 5

และยังมีรถตำรวจ Dodge Charger LX 2006 ที่ดอม,ไบรอัน,ฮาน,โรมัน ขโมยออกมาแข่งเดิมพันกัน ซึ่งไบรอันสามารถเหยียบเอาชนะดอมไปได้

แต่ก็โดนโรมัน ไซโคบอกว่าดอมแอบผ่อนคันเร่งยอมให้ไบรอันชนะทำเอาไบรอันที่กำลังดีใจอยู่นั่นถึงกับเงิบไปเลยทีเดียว

ส่วนท้ายเรื่องยังมี Dodge Charger SRT8 สีดำ 2 คัน รุ่นปี 2010 ที่ไบรอันและดอม ใช้มันลากตู้เซฟยักษ์เพื่อขโมบเงินที่ริโอ

โดยหลังจาก Fast 5 เป็นต้นมาสมาชิกแต่ละคนในคอบครัวก็กลายเป็นเศรษฐีกันหมดหลังจากการปล้นที่ริโอ จึงไม่แปลกใจหากไบรอันจะเปลี่ยนมาใช้ GT-R35 รุ่นปี 2011

สุดสวยที่แพงกว่า Skyline  GT-R ในอดีตเยอะในหนัง Fast & Furious 5 (ตอนท้ายเรื่อ) และ Fast & Furious 6 (ตอนต้นเรื่อง ซิ่งไปหามีอาที่กำลังคลอดลูก)

รถยนต์ Rally-Bred สุดคลาสสิคพบเห็นใน “Fast & Furious 6” ที่ไบรอัน โอคอนเนอร์ขับในภาพยนตร์คือ1970 Ford Escort RS1600 ซึ่งเป็นรถที่มีสมรรถนะเครื่องยนต์ 16วาวล์ ทวินแคม 1.6ลิตร Cosworth BDA สี่กระบอกสูบ ขุมกำลัง 113แรงม้า

แม้ตัวเลขอาจฟังดูไม่มาก แต่ด้วยน้ำหนักรถที่น้อยกว่า 2,000ปอนด์ ทำให้รถคูเป้คันนี้ครบเครื่องจิ๋วแต่แจ๋วเร็วเป็นจรวดและพร้อมที่จะลุยกับรถถังในภาคที่หก

ตามมาด้วยเจ้า Alfa Romeo GIULIETTA  QUARDRIFOGLIO VERDE รถครอบครัวขนาดเล็ก 5 ประตู แฮชแบ็ค ที่ปรากฏใน Fast 6 ช่วงท้ายเรื่องที่ขับโดยไบรอันและมีอา ฉากไล่ล่ายิงปีนเครื่องบินในรันเวย์

ตอนจบที่หน้าบ้านในลอสแอนเจลิสเราก็จะสังเกตเห็น Nissan GT-R35 สีน้ำเงิน ก็คงเดาไม่ยากเลยว่าของใครนอกจากไบรอันนั่นเอง

ส่วนต้นเรื่อง Fast 7 เราก็ได้เห็นไบรอัน ปรับลุคไปขับรถตู้ Chrysler Town&Country ไปส่งลูกที่โรงเรียนซะด้วย

ส่วนใน Fast & Furious 7 แม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นไบรอันขับ GT-R แต่ในฉากพิธีศพของฮาน เราจะเห็น R32 จอดเป็นแบ็คกราวด์ แต่หารู้ไม่ว่านี่แหละคือรถของไบรอันแน่นอน

นอกจากนี้ยังมี Subaru Impreza WRX STI (รุ่นปี 2012 สีน้ำเงิน-ดำ) ในฉากที่ต้องเหินฟ้าลงจากเครื่องบินและลงมาซิ่งต่อบนถนนกลางหุบเขา ก่อนที่จะโดนยิงจนรถพรุนและชนไหล่เขาพังไปในที่สุด

ในภารกิจตามไปชิงตัวแรมซี่ย์ แฮ็คเกอร์สาวอังกฤษผู้สร้างดวงตาเทพ สุดยอดโปรแกรมคพิวเตอร์ที่สามารถตามบุคคลเป้าหมายผ่านระบบอุปกรณ์ดิจิตลทุกชนิด

ในช่วงกลางเรื่องที่ยกทีมไปอาบูดาบี แต่ละคนก็ได้ขับรถซุปเปอร์คาร์กันหล่อๆ โดยหนุ่มไบรอันก็เลือกใช้ Mclare MP4-12C สีน้ำเงิน

(สงสัยจะชอบสีน้ำเงินเอามากๆ นะเนี่ย)

และยังมี GT-R35 Black Edition เวอร์ชั่นพิเศษปี 2012 มาซิ่งอีกด้วยในช่วงท้ายเรื่อง ที่เล่นชิงตัวแรมซี่ย์ เพื่อหนีการตรวจจับของดวงตาเทพ และโดรนที่ตามไล่ล่า โดยมีฉากเด็ดตรงที่ไบรอันโชว์กดไฮดรอลิกเพื่อโหลดรถให้ต่ำลงและมุดลอดหลบอยู่ใต้รถบรรทุก แบบหล่อๆ เลย แต่สุดท้ายก็โดนจรวจยิงจนระเบิด

และฉากจบใน Fast & Furious 7 ที่มีการทำ Effect CG ใบหน้าของไบรอันหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว ไบรอันก็ได้ขับ Supre Turbo สีขาว  ที่ต้องบอกเลยว่ามันคือรถของ พอล วอล์เกอร์ ในชีวิตจริง

ก่อนที่จะขับแยกเส้นทางกับดอม พร้อมกับเพลง See You Again ที่แต่งขึ้นเพื่อ พอล วอล์เกอร์ ซึ่งฉากนี้เล่นทำเอาหลายๆ คนน้ำตาไหลเลยทีเดียว เพียงแค่ 1 ภาพ แต่ความหมายมันลึกซึ้งกินใจเหลือเกิน

สุดท้ายนี้ ไบรอัน ก็จะอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคนตลอดไป R.I.P. Paul Walker